5 ข้อเสียที่ต้องเจอแน่นอน ถ้าติดเครื่องปรับอากาศผิดขนาด
- Sapphire T
- Jun 21
- 1 min read
การเลือกแอร์หรือเครื่องปรับอากาศ ไม่ใช่แค่เลือกในราคาที่ถูกที่สุด | เลือกแบรนด์ที่ไว้ใจหรือดีไซน์ แต่สิ่งที่ต้องคำนึงมากที่สุดคือ “ขนาด BTU” ต้องเหมาะกับขนาดห้องด้วย
วันนี้ B-Home จะพาไปดูผลเสียกันครับว่าซื้อเครื่องปรับอากาศผิดขนาดจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง กับ ❄️ 5 ข้อเสียที่ต้องเจอแน่นอน ถ้าติดเครื่องปรับอากาศผิดขนาด

1. ❌ ห้องไม่เย็น หรือเย็นช้า
ถ้าแอร์ BTU ต่ำเกินไปเมื่อเทียบกับขนาดห้อง ตัวเครื่องจะทำงานหนักตลอดเวลา แต่ความเย็นกลับไม่กระจายทั่วถึง ทำให้รู้สึกอบอ้าว เย็นเฉพาะจุด และพักผ่อนได้ไม่เต็มที่
2. ⚠️ ค่าสูงไฟพุ่งเกินเหตุ
แอร์ที่ทำงานหนักเกินความสามารถ จะกินไฟมากกว่าปกติ และถ้าขนาดแอร์ใหญ่เกินความจำเป็น คอมเพรสเซอร์จะตัดบ่อย ทำให้เปลืองไฟแบบไม่รู้ตัว
3. 💧 ความชื้นในห้องสะสม
เมื่อแอร์ขนาดใหญ่ตัดการทำงานเร็วเกินไป จะไม่มีเวลาสกัดความชื้นออกจากอากาศ ส่งผลให้ห้องมีความชื้นสะสม เกิดกลิ่นอับ รา หรืออาการภูมิแพ้ตามมา
4. 🔧 แอร์พังเร็ว อายุการใช้งานสั้น
เครื่องที่ทำงานหนักเกินกำลัง หรือคอมเพรสเซอร์ตัดบ่อยเกินไป จะส่งผลให้ชิ้นส่วนภายในสึกหรอเร็วขึ้น เสี่ยงต้องซ่อมบ่อย หรือเปลี่ยนใหม่ก่อนเวลาอันควร
5. 🛌 พักผ่อนไม่สบาย สุขภาพเสีย
แอร์เย็นไม่พอ ร้อนอบอ้าว หรือแอร์เย็นเกินไปจนเกิดการเป่าลมแรงใส่ร่างกายโดยตรง ล้วนกระทบกับคุณภาพการนอน ปวดหัว เป็นหวัด หรือคอแห้งโดยไม่รู้ตัว
หากยกตัวอย่างจากรูปที่แอดแปะมาแล้วนั้น ประเมินจากขนาดของเฟอร์นิเจอร์และคนที่ยืนอยู่ ขนาดห้องน่าจะอยู่ที่ราวๆ 70-80 ตารางเมตร โดยเครื่องปรับอากาศในภาพน่าจะอยู่ที่ขนาด 9000-12000 BTU เท่านั้น เพราะเครื่องไม่ได้ใหญ่มาก
✅ สูตรคำนวณ BTU แอร์เบื้องต้น
สูตรมาตรฐาน:
BTU ที่เหมาะสม ≈ พื้นที่ห้อง (กว้าง x ยาว) x 600 – 800
- ใช้ค่า 600 สำหรับห้องทั่วไป (ห้องนอน, ห้องนั่งเล่น)
- ใช้ค่า 700–800 สำหรับห้องที่เจอแดดแรง, มีคนอยู่หลายคน, มีอุปกรณ์ไฟฟ้าเยอะ
📌 ตัวอย่าง:
ห้องขนาด 8 x 10 เมตร = 80 ตร.ม.
ถ้าเป็นห้องนอนทั่วไป:
→ 80 x 600 = 48,000 BTU หรือต้องติดตั้งเครื่องปรับอากาศขนาด 24,000 จำนวน 2 ตัว
ซึ่งหากต้องการใช้แอร์ขนาด 9,000 BTU แบบไม่เปลี่ยนแปลง และต้องการให้ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 80 ตร.ม.จะต้องใช้เครื่องปรับอากาศทั้วหมด 7 เครื่อง ถึงจำครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด
Comments